29 September 2007

กรอบงานของธุรกิจที่ใช้ หลัก SOA เพื่อรองรับความไม่แน่นอน

กรอบงานของธุรกิจที่ใช้ หลัก Service Oriented Architecture SOA เพื่อรองรับความไม่แน่นอน

SOA กับ Web Services เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
SOA เป็นรูปแบบของการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เน้นให้ซอฟต์แวร์สามารถให้บริการได้โดยไม่ มีเงื่อนไขหรือข้อกำหนดของแพลตฟอร์มที่ใช้ของผู้ร้องขอบริการ ส่วน Web service เป็นซอฟต์แวร์ที่ให้บริการผ่านทางอินเทอร์เน็ตซึ่งข้อมูลระหว่างผู้ให้บริการและผู้ขอบริการอยู่ในรูปแบบของภาษาเอกซ์เอ็มแอล ฉะนั้นจริง ๆ แล้ว Web

service คือซอฟต์แวร์ที่สามารถพัฒนาในอยู่ในรูปแบบของ SOA การที่ผู้ให้บริการ Web service และ ผู้ร้องขอ Web service สื่อสารกันด้วยภาษาเอกซ์เอ็มแอลซึ่งเป็นภาษามาตรฐานที่ใช้ในการนำเสนอและแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ต จึงทำให้การเรียกใช้ Web service ไม่ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มของผู้เรียกใช้ โดยสรุปแล้ว SOA เป็นสไตล์หรือเป็นรูปแบบ ส่วน Web service Technology เป็นวิธีการพัฒนา ความสัมพันธ์ระหว่าง SOA และ Web Services ก็คือ Web service เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำให้ SOA เกิดขึ้นจริงและใช้ได้จริง

กรอบงานของธุรกิจที่ใช้ หลัก SOA เพื่อรองรับความไม่แน่นอน
เมื่อไม่นานมานี้ โมเดลของการบริการธุรกิจแบบ service oriented ได้ถูกคิดค้นขึ้นในฟังก์ชันของกิจกรรมที่ถูกกำหนดด้วยตัวบริการของธุรกิจและไอที ภายใต้โมเดลนี้ กิจกรรมจะถูกนำมานิยามใหม่ในส่วนของการดำเนินธุรกิจและกิจกรรมไอที โดยใช้ส่วนประกอบพื้นฐานของฟังก์ชันธุรกิจและไอทีมาแยกเป็นส่วน ๆ แล้วทำเป็นเซ็ตมาตรฐานของธุรกิจหรือบริการทางไอที ที่มีการกำหนดบริการพื้นฐานที่นำเสนอขึ้นมาและจัดทำหน้าจออินเตอร์เฟตที่มีความยืดหยุ่นต่อการนำมาประกอบใหม่ เพื่อให้เข้าใจนิยามของคำว่า โมเดล service oriented business จึงของสรุปคำว่า Service Oriented Enterprise อย่างกว้าง ๆ ว่าคือ การใช้งานของระบบและการทำงานร่วมกันทางไอทีจากระบบและงานไอทีที่เหมาะสม SOE เป็นโมเดลสำหรับสถาปัตยกรรมทางซอฟต์แวร์และโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอที โดยทำงานร่วมกับรูปแบบของสถาปัตยกรรมในปัจจุบัน ทำให้สามารถกลายเป็นตัวขับเคลื่อนกระบวนการสถาปัตยกรรมที่น่าเชื่อถือ ที่สามารถครอบคลุมส่วนประกอบของฟังก์ชันการทำงานของธุรกิจในงานบริการที่สามารถนำมาใช้ซ้ำในฟังก์ชันของธุรกิจที่หลากหลายได้
หัวใจหลักของการทำงาน SOE จะใช้บริการเครือข่ายในการทำให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ การบริการผ่านเครือข่ายจะเป็นตัวแนะนำแนวคิดของหน้าจอแบบทั่วไปที่สามารถติดต่อภายใต้กลไกพื้นฐานเดียวกันเพื่อที่ใช้หน้าจอหรือหน้าจอระหว่างผู้ร่วมค้าเดียวกันได้ หน้าจออินเตอร์เฟสที่สามารถใช้งานได้ทั่วไปจะช่วยลดการรวมกลุ่มของเครือข่ายและการสร้างเครือข่ายเฉพาะกลุ่ม

SOE นำหลักการ interoperability (แนวทางที่จะทำให้ข้อมูลในระบบหรือคอมโพเนนท์ต่าง ๆ สามารถพูดคุยกันได้ โดยระบบไม่จำเป็นต้องมาจากที่เดียวกัน แต่ต้องสามารถคุยกันได้ ติดต่อสื่อสารกันได้ แลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้) และความไวต่อการเปลี่ยนแปลงมาเป็นองค์ประกอบของการออกแบบธุรกิจและระบบไอที หัวข้อหลักสำหรับ SOE เป็นการสมมติให้ระบบธุรกิจและไอทีที่สามารถรวมความต้องการเบื้องต้นไว้ด้วยกัน มากกว่าที่จะทำการเพิ่มขึ้นมาเหมือนในอดีต

คำนิยามความไม่แน่นอนและสาเหตุ
การบริการแบบไม่แน่นอนหมายถึง ธรรมชาติของการไม่สามารถทำนายผลของการให้บริการได้ แม้ว่าทั้งบริการของโพรไวด์เดอร์และบริการของผู้บริโภคจะชี้เฉพาะเจาะจงก็ตาม แต่ความแน่นอนก็ยังส่งผลให้การบริการต่าง ๆ ยากที่จะทำนายล่วงหน้า
สาเหตุของความไม่แน่นอนมาจากต้นกำเนิดของความหลากหลาย สาเหตุบางส่วนสามารถควบคุมได้และบางส่วนก็ควบคุมได้เพียงเล็กน้อย สำหรับตัวอย่าง เช่น คุณภาพที่ต่ำของการบริการอาจจะทำให้คาดเดาการบริการการขนส่งได้เพียงเล็กน้อย
ปัจจัยที่ควรคำนึงถึงสำหรับการบริการที่รองรับความไม่แน่นอน
คีย์หลักที่เกี่ยวข้องกับความไม่แน่นอนของบริการที่ควรจะใช้อ้างอิงในการทำคำสั่งในกิจการ เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงจากการรวมบริการธุรกิจของ service oriented ควรคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ

การพัฒนาข้อตกลงการบริการ(Service Agreement Development) : เพื่อทำให้การบริการอยู่ในระดับที่น่ามั่นใจของคุณภาพและผลลัพธ์ของการบริการ กิจการต่าง ๆ จะต้องมีการทำงานในส่วนของการออกข้อรายละเอียดของข้อตกลงของการบริการกับบริการของโพรไวเดอร์สำหรับเทอมและสภาวะของระดับการบริการสัญญาและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับบริการ
การออกแบบส่วนประกอบทั้งหมดของการบริการ (Service Composition Design) : ด้วยการเจาะจงข้อตกลงของการบริการ กิจการสามารถออกแบบว่าวิธีการบริการควรจะประกอบด้วยสิ่งใดเพื่อบรรลุจุดประสงค์ของธุรกิจของการบริการที่ประกอบขึ้นมา การออกแบบอาจจะกำหนดโดยเริ่มต้นเป็น Roadmap เป็นแผนการทำงานคร่าว ๆ ของการดำเนินการบริการที่มีอยู่ การเริ่มต้นการออกแบบจะต้องมีการวิเคราะห์และกำหนดด้วยการประเมินผลในทางบวกและข้อควรคำนึงถึงต่าง ๆ

การประเมินค่าส่วนประกอบต่าง ๆ ของการบริการ (Service Composition Evaluation) : ผลลัพธ์ของการบริการจะต้องถูกจับและวิเคราะห์ในแง่ของต้นทุนและกำไรทางด้านเศรษฐศาสตร์ การออกแบบส่วนประกอบของการบริการจะถูกประเมินค่าโดยยึดหลักของเศรษฐศาสตร์ในคุณค่าของการลดต้นทุน, ประสิทธิภาพที่พัฒนาขึ้น และคุณค่าทางกลยุทธ์ทั้งหมด แสดงเป็น functional กับ non functional
การจัดการการปฏิบัติงานของบริการ (Service Operation Management) : ในท้ายที่สุด ระหว่างที่มีการปฏิบัติงานจริง ลักษณะต่าง ๆ ของการบริการจะต้องถูกจัดการโดยกิจการ ข้อยกเว้นจะต้องถูกจัดการลงและคุณภาพของการบริการจะถูกควบคุมและจัดการ
การบริการแบบไม่แน่นอนในบริการต่าง ๆ

การพิจารณาที่ไม่คำนึงถึงความแน่นอน จะมีมุมมองเพียงมุมมองเดียวของการบริการต่างๆ ในการออกแบบที่รองรับความไม่แน่นอนจะต้องอาศัยกฎเกณฑ์เช่นการเลือกขอบข่ายการบริการจากคำอธิบายบริการ, หน้าจออินเตอร์เฟสที่เข้ากันได้และคุณภาพของลักษณะการบริการ ดังนั้น การบริการต่าง ๆในแต่ละส่วน จึงต้องมีการออกแบบที่ชัดเจนกำหนดไว้สำหรับนโยบายเดียวและทำให้ส่วนต่าง ๆ มีความสัมพันธ์ต่อกัน การรวมกันของการบริการแบบไม่แน่นอนของการรวมบริการข้ามบริษัท การออกแบบต้องพิจารณาถึงส่วนประกอบต่าง ๆ ทั้งหมด จะไม่พิจารณาเพียงผลลัพธ์เดียว แต่จะรวมคลุมถึงหลาย ๆ ผลลัพธ์จากการบริการที่มีส่วนประกอบอยู่ทั้งหมด

ผู้เขียนบทความวิจัยได้เสนอโมเดลในการแก้ปัญหา โดยพิจารณามาจากการค้นหานโยบายที่เหมาะสมที่สุดในบริการต่าง ๆ แล้วนำคีย์หลักจะมาแปลงเป็นโมเดล, การกระทำ และผลของการกระทำสำหรับการบริการภายใต้ความไม่แน่นอน แสดงเป็นแผนภาพโมเดล

No comments:

Copyright 2007-2010 © SOA Service Oriented Architecture. All Rights Reserved