เผยวิจัยระบุเอเชียยังล้าหลังเรื่อง SOA ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน

เผยวิจัยระบุเอเชียยังล้าหลังเรื่อง SOA ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน

สำนักข่าวอีนิวส์ : รายงานดัชนีกริดของออราเคิล ฉบับที่ 4 (Oracle® Grid Index IV) ซึ่งเพิ่งได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ ระบุว่า 33% ขององค์กรในเอเชีย-แปซิฟิก (APAC) ไม่มีแผนที่จะปรับใช้สถาปัตยกรรมที่มุ่งเน้นบริการ (Service-Oriented Architecture - SOA) รายงานดังกล่าวสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบประมวลผลกริดคอมพิวติ้ง (Grid Computing) และเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น SOA ในขณะเดียวกัน ในสหรัฐฯ และยุโรป มีองค์กรเพียง 5-10% เท่านั้นที่ระบุว่าไม่มีแผนที่จะปรับใช้ SOA ด้วยเหตุนี้เอเชีย-แปซิฟิกจึงมีความได้เปรียบด้านการแข่งขันที่น้อยกว่าในเรื่องที่เกี่ยวกับ SOA

ในทำนองเดียวกัน รายงานวิจัยดังกล่าวระบุว่า เอเชีย-แปซิฟิกมีความล้าหลังในเรื่องอัตราการนำ SOA มาใช้งาน โดยเพียง 5% ขององค์กรที่ตอบแบบสอบถามในเอเชีย-แปซิฟิก ได้ปรับใช้ SOA เปรียบเทียบกับยุโรป (10%) และสหรัฐฯ (20%) นอกเหนือจากอัตราการปรับใช้ SOA ที่ต่ำในเอเชีย-แปซิฟิกแล้ว องค์กรจำนวนมาก (85%) ยังมีความรู้น้อยมากหรือไม่มีความรู้ในระดับที่เพียงพอสำหรับการใช้งาน SOA ทั้งนี้ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นกลุ่มที่มีอัตราการรับรู้เกี่ยวกับ SOA น้อยที่สุด โดย 87% ระบุว่าไม่รู้จัก SOA

“ช่องว่างทางด้านความรู้สำหรับเอเชีย-แปซิฟิกนับเป็นปัญหาสำคัญ เพราะองค์กรย่อมไม่สามารถปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตนเองไม่รู้จักหรือไม่มีความเชื่อมั่นว่าจะประสบผลสำเร็จ” มร. คลีฟ ลองบอททัม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ

ควอเซียก้า (Quocirca) กล่าว “อย่างไรก็ตาม รายงานวิจัยฉบับนี้ระบุว่าองค์กรต่างๆ ในเอเชีย-แปซิฟิกให้ความสำคัญกับเรื่องของคุณประโยชน์ที่จะได้รับจาก SOA แต่ยังขาดประสบการณ์การใช้งานจริงเท่านั้น”

ถึงแม้ว่าจะมีอัตราการนำ SOA มาใช้งานที่ต่ำ แต่คุณลักษณะของ SOA อาจพบเห็นได้ในทุกจุดในพฤติกรรมการซื้อขององค์กรในเอเชีย-แปซิฟิก เช่น การใช้มิดเดิลแวร์เพื่อผนวกรวมระบบ การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยมีการนำทรัพยากรกลับมาใช้ และความต้องการที่สูงมากใน การพัฒนาระบบไอทีที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่นและสอดคล้องกับธุรกิจ

ตัวอย่างเช่น มีผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชีย-แปซิฟิก (37%) ที่ระบุว่ามีการดำเนินการบางอย่างกับโครงสร้างพื้นฐานไอทีเพื่อปรับปรุงความยืดหยุ่นและรองรับธุรกิจ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมากกว่าในยุโรปหรือสหรัฐฯ นอกจากนั้น มีผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชีย-แปซิฟิก (38%) ที่ระบุว่าความสอดคล้องและการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาไอที ซึ่งมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ และมีผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชีย-แปซิฟิก (40%) ที่ระบุว่ามีการใช้มิดเดิลแวร์เพื่อเชื่อมโยงระบบที่มีอยู่ ซึ่งมากกว่าในสหรัฐฯ หรือยุโรป

“ความยืดหยุ่น การนำกลับมาใช้ใหม่ และความสอดคล้องนับเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของ SOA และเป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันสำหรับบริษัทชั้นนำในเอเชีย-แปซิฟิก เช่น GuangDong Telecom ของจีน, Orient Overseas Container Line (OOCL) ของฮ่องกง, Hanjin Shipping ของเกาหลี และ YCH Group ของสิงคโปร์” มร. ดั๊ก กิ๊บสัน ผู้อำนวยการฝ่ายสถาปัตยกรรมที่มุ่งเน้นบริการของออราเคิล เอเชีย-แปซิฟิก กล่าว “ความยืดหยุ่นที่องค์กรต่างๆ จะได้รับจากสถาปัตยกรรม SOA นับเป็นข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันที่สำคัญสำหรับหลายๆ อุตสาหกรรม องค์กรในเอเชีย-แปซิฟิกที่ไม่ได้ปรับใช้รูปแบบที่มุ่งเน้นบริการจะไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทต่างชาติได้”

กว่า 84% ของผู้เชี่ยวชาญด้าน SOA [1] ในเอเชีย-แปซิฟิก ระบุว่าสถาปัตยกรรมดังกล่าวมีความสำคัญอย่างมากต่อความสำเร็จในอนาคตของบริษัทฯ เปรียบเทียบกับ 16% ของผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชีย-แปซิฟิกที่ให้คำตอบในลักษณะเดียวกันนี้

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้าน SOA ยังมองเรื่องความสะดวกในการบริหารจัดการในลักษณะที่ค่อนข้างแตกต่างจากผู้ตอบแบบสอบถามโดยรวม กล่าวคือ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชีย-แปซิฟิกระบุว่า การบริหารจัดการสถาปัตยกรรม SOA อาจเป็น “ฝันร้าย” (8%) หรือคาดการณ์ว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเครื่องมือด้านการจัดการครั้งใหญ่ (39%) ในทางตรงกันข้าม ในบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้าน SOA ในเอเชีย-แปซิฟิก ไม่มีใครเลยที่คิดว่าการบริหารจัดการ SOA เป็นฝันร้าย และมีเพียง 12% เท่านั้นที่คิดว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องมือด้านการจัดการที่มีอยู่ในปัจจุบัน

กิ๊บสันให้ความเห็นว่า “ผู้เชี่ยวชาญด้าน SOA ในเอเชีย-แปซิฟิกมองว่า SOA เป็นสถาปัตยกรรมที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแก่องค์กร”

SOA นับเป็นแนวทางใหม่ในการปรับใช้เทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยให้ฝ่ายไอทีสามารถตอบสนองความต้องการทางด้านธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีส่วนใหญ่ (ผู้ตอบแบบสอบถามทางด้านไอที) ระบุว่าเคยได้ยินเกี่ยวกับ SOA และกว่าครึ่งหนึ่ง (57%) ระบุว่า SOA มีความสำคัญ มีความสำคัญอย่างมาก หรือมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจ นอกจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีส่วนใหญ่ (52%) ยังระบุว่าปัจจุบันตนเองได้เปลี่ยนไปใช้ SOA แล้ว ในลักษณะของการเปลี่ยนย้ายครั้งใหญ่ไปสู่สถาปัตยกรรมเดียว หรือการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันใหม่ๆ ทั้งหมดให้รองรับ SOA หรือการปรับปรุงแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ให้ทันสมัย

Source: http://www.e-news.co.th/itnews/itnews.asp?id=7811&cid=9